เปิดปาฏิหาริย์ “หลวงพ่อยี” คว้าเหรียญกลางอากาศ ยืดให้เหนียว ม้วนทำเป็นตะกรุด แช่น้ำมนต์กลายเป็นทองคำแท้

หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง ท่านเป็นชาวลพบุรีเชื้อสายมอญ ท่านยังสามารถคว้าเหรียญกลางอากาศ บิณฑบาตกับเทวดา ได้แต่ปาฏิหาริย์นี้จะปรากฏแก่ผู้มีบุญถึงกันเท่านั้น ถ้าบุญไม่ถึงก็ไม่ได้พบเห็น ท่านเองยังเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ประทีปแก้วแห่งพระกรรมฐาน สายพระอาจารย์มั่นอีกด้วย

หลวงพ่อยีนั้น เมื่อตอนท่านยังเด็กเล็กๆ ได้มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาบิณฑบาตแล้วขอตัวหลวงพ่อยีไปเลี้ยงเป็นเสมือนลูกบุญธรรม พ่อแม่ท่านมีความศรัทธาพระธุดงค์รูปนี้มากจึงยอมยกให้ ท่านเล่าว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากเพราะเมื่อตอนที่พระธุดงค์รูปนี้มาบิณฑบาตในหมู่บ้าน รูปร่างพระธุดงค์ดูแก่เฒ่ามากๆ แต่เมื่อท่านเดินพ้นหมู่บ้านไปแล้ว ท่านก็หยิบยาอมเม็ดเล็กๆมาอมไว้ในปาก ทันใดนั้นท่านกลับกลายเป็นหนุ่มขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ พระธุดงค์รูปนี้ชาวบ้านเรียกกันว่าเรียกกันว่า “หลวงปู่ใหญ่”

ก่อนที่หลวงปู่ใหญ่จะสั่งสอนการภาวนานั้น ท่านจะทดสอบจิตใจก่อน โดยขอจมูกเด็กๆที่มาเรียนเป็นค่าครู เด็กคนอื่นก็กลัว ไม่กล้า มีแต่เด็กชายยีเท่านั้นที่หยิบมีดโกนขึ้นมาแล้วเฉือนลงที่จมูกตนเอง เลือดแดงฉานสาดออกมามากมาย แต่เมื่อหลวงปู่ใหญ่เอามือของท่านลูบเพียงครั้งเดียวแผลก็หายเป็นปลิดทิ้ง หลวงปู่ใหญ่ได้พยากรณ์ว่า ต่อไปไอ้หน้าบากคือเด็กชายยีผู้นี้ จะเป็นผู้มีพลังจิตแก่กล้าเป็นที่พึ่งของผู้คนได้ในอนาคต ซึ่งต่อมาก็เป็นจริงตามนั้นทุกอย่าง

ก่อนบวชเป็นพระภิกษุ หลวงพ่อยีได้ธุดงค์เดินป่าไปหลายแห่ง จนเมื่ออายุได้ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ แล้วก็ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยตามป่าเขาลำเนาไพร ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมลายู หลวงพ่อยีได้เดินธุดงค์หาความสงบวิเวก บำเพ็ญจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ตอนที่ท่านบวชเป็นพระถึง ๒๘ พรรษาแล้ว อายุท่านได้ประมาณ ๕๐ ปี ท่านเล็งเห็นว่าตัวเองยังมีกรรมต้องรับใช้ จึงจำต้องลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ ได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็น “วัดดงตาก้อนทอง” ปัจจุบันนี้

สมัยนั้น “วัดดงตาก้อนทอง” ยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด ๕๖๕ ไร่ ท่านยีเคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรีให้ลูกศิษย์ลูกหา ณ ที่นี้อยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ ๒ หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ให้คนเช่านำรายได้เข้าวัด หลวงพ่อยีได้ร่ำเรียนกรรมฐานจนได้อภิญญาสมาบัติขั้นสูง สามารถบิณฑบาตข้าวจากเทวดาได้ โดยการนำเอาบาตรที่ว่างเปล่าไปขอข้าวจากเทวดาที่โคนต้นไม้ ดูๆแล้วก็ไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นมาได้ แต่กลับปรากฏข้าวสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอม พร้อมทั้งดอกไม้แปลกๆ บางครั้งมีลูกประคำทองคำปรากฏขึ้นมาด้วย

หลวงพ่อยีสามารถคว้าเหรียญเงินสมัยรัชกาลที่ ๔ ในอากาศได้ แล้วยืดเหรียญเงินแข็งๆให้เหนียวยานออกมาคล้ายยืดตังเม จากนั้นตัดเป็นท่อนเล็กๆ ม้วนเป็นตะกรุด แช่ในน้ำมนต์ เสร็จแล้วตักขึ้นมากลายเป็นตะกรุดทองคำแท้

หลวงพ่อยี

– สามารถหุงข้าวธรรมดาให้กลายเป็นทองคำ
– สามารถเสกกระดาษธรรมดาให้กลายเป็นธนบัตร
– สามารถเสกน้ำเปล่าๆ น้ำเหล้า น้ำมะพร้าวให้กลายเป็นพระสมเด็จ
– สามารถเสกยารักษาบำบัดโรคต่างๆให้ผู้คนใช้รักษาตัวจนหายจากอาการเจ็บป่วยโรคภัยทั้งหลายได้อย่างน่าอัศจรรย์
– ทั้งยังมีญาณหยั่งรู้ความนึกคิดของสัตว์และคน รู้เหตุการณ์ในอดีตและอนาคต อย่างแม่นยำ

การสร้างปาฏิหาริย์ทั้งหลายหลวงพ่อยีนั้น ท่านบอกอยู่เสมอว่าท่านไม่ได้ทำเอง ทุกครั้งท่านจะส่งกระแสจิตไปหาหลวงปู่ใหญ่ ให้หลวงปู่ใหญ่มาช่วย เจ้าคุณถาวร จิตตถาวโร แห่งวัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร คือบุคคลที่หลวงพ่อยีทำนายไว้ว่าจะมาช่วยทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองให้เจริญรุ่งเรือง ท่านเจ้าคุณถาวรยังได้สมบัติต่างๆของหลวงพ่อยี รวมทั้งตำราต่างๆไปเก็บรักษาไว้ ต่อมาท่านเจ้าคุณได้ทดลองวิชาตามหลวงพ่อยีสั่งสอน ก็ปรากฏว่าสำเร็จเป็นที่น่าอัศจรรย์ เช่น การนำไข่ยอดบายศรีมาทุบให้ละเอียดแล้วนำมาเผา ท่านเจ้าคุณถาวรทำตามตำรา ปรากฏว่าไข่ยอดบายศรีกลายเป็นทองคำได้อย่างปาฏิหาริย์ ปัจจุบันนี้ไข่ทองคำดังกล่าวได้นำไปถวายให้ หลวงปู่จันทร์ศรี วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี

หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป หรือหลวงปู่ใหญ่

นอกจากนี้ยังมีการนำ “ข้าวทิพย์” ของหลวงพ่อยีที่ได้จากการบิณฑบาตจากเทวดา มาทดลองหุงรวมกับข้าวธรรมดาดู ปรากฏว่าข้าวธรรมดาทั้งหมดพลอยกลายเป็นข้าวทิพย์ตามไปด้วย มีกลิ่นหอมแปลกประหลาดฟุ้งไปทั่วกุฏิ เป็นที่อัศจรรย์ใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งนัก ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อยียังมีมากเหลือเกิน เช่น ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้เป็นกบนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย คล้ายปาฏิหาริย์ของ “หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา” เหมือนกันไม่มีผิด เพราะนั่นก็คือเครือเดียวกันกับหลวงปู่ใหญ่เหมือนกัน

สำหรับเรื่องราวของหลวงพ่อยี ศิษย์ผู้เป็นประดุจลูกบุญธรรมของหลวงปู่ใหญ่ นี้ ก็ต้องขอขอบใจผู้ที่บันทึกไว้ ขอให้จำเริญจำเริญเถิด หลวงปู่ใหญ่เองไม่ได้บันทึกอะไรไว้เลย เพราะมุ่งมั่นแต่กิจช่วยเหลือลูกหลานสืบสานพระพุทธศาสนาเท่านั้น

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า